ประวัติความเป็นมาของบิทคอยน์ (Bitcoin Timeline) หรือเหรียญ BTC
History of Bitcoin
ไทม์ไลน์แสดงประวัติความเป็นมา ของบิทคอยน์ตั้งแต่ปีที่เริ่มต้น ตั้งแต่คิดไอเดียจนถึงปัจจุบัน (2007 -2021)
2007
ในปีที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ คอนเซ็ปต์บิทคอยน์ จึงเริ่มต้นขึ้น ในแนวคิดที่ว่าจะออกจากระบบการเงินเดิมๆที่ไม่มีรัฐบาลและธนาคารเป็นผู้ควบคุม โดยพูดคุยกันในกลุ่ม Cypherpunk ซึ่งกลุ่มนี้จะพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องคณิตศาสตร์และศาสตร์แห่งการเข้ารหัส เป็นหลัก และสนทนากันผ่านทางอีเมลเท่านั้น
2008
* 18 สิงหาคม 2008 Bitcoin.org ได้ถูกก่อตั้งขึ้น โดยบุคคลนิรนามที่ใช้ชื่อว่า Satoshi Nakamoto
* 31 สิงหาคม 2008 เผยแพร่เอกสาร (White paper) ออกสู่สาธารณะเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อว่า Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System ซึ่งเขียนโดยนาย Satoshi Nakamoto
2009
* 3 มกราคม 2009 เครือข่ายเน็ตเวิร์คของบิทคอยน์ถูกตั้งขึ้นครั้งแรก โดยเริ่มนับ Block ที่ 0 และกำหนดที่ 50 BTC เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจะไม่มี previous block หรือ block ก่อนหน้านี้
* 9 มกราคม 2009 เปิด Open Source ทดสอบและให้บุคคลทั่วไปเข้าถึง โดยมี Hal Finney ซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ ผู้สนับสนุนคนแรก โดยเขาได้ทำการ ดาวน์โหลด Software มาทดสอบ ตั้งแต่วันที่ Software ถูกเผยแพร่
* 12 มกราคม 2009 Satoshi Nakamoto ได้ทำการโอนบิทคอยน์ จำนวน 10 BTC ให้กับ Hal Finney จึงนับเป็น Transaction แรกของบิทคอยน์
2010
* 22 พฤษภาคม 2010 มีการใช้บิทคอยน์ซื้อสินค้าเป็นครั้งแรก โดย Laszlo ได้ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 BTC แลกกับฟิชซ่า 2 ถาด เมื่อเทียบมูลค่าปัจจุบันแล้ว(ปี 2021) 10,000 BTC จะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับว่าเป็นการซื้อและขายพิซซ่าที่แพงที่สุดในโลกเลยทีเดียวและนับเป็น Transaction แรกที่ใช้บิทคอยน์ซื้อสินค้า
* เปิดตัวเว็บไซต์ Mt.Gox ก่อตั้งโดย Jed McCaleb ซึ่งเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนบิทคอยน์รายใหญ่ที่สุดมีสัดส่วนในตลาดมากกว่า 10% ในขณะนั้น
2011
* เว็บไซต์ Mt.Gox โดนแฮก สันนิฐานว่าเครื่องที่ทำบัญชีของบริษัทถูกแฮกข้อมูล โดยแฮกเกอร์รายนี้ได้บิทคอยน์ไปประมาณ 2,650 BTC โดย 2,000 BTC เป็นของลูกค้าและ 650B BTC เป็นของ Mt.Gox ที่ซื้อเก็บไว้
* 1 BTC เท่ากับ 1 USD เป็นครั้งแรกที่บิทคอยน์ มีมูลค่าเท่ากับเงินดอลลาร์สหรัฐ
* เริ่มมีเหรียญสกุลเงินอื่น เพิ่มมากขึ้นและเว็บไซต์ต่างๆเริ่มรับบิทคอยน์เป็นอีกช่องทางในการรับชำระหรือรับบริจาค เช่น Wikileaks เป็นต้น
2012
* Block หมายเลขที่ 181919 มีการทำธุรกรรม 1,322 ครั้ง นับเป็น Block ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2009
* Cold Wallet (กระเป๋าเงินเย็น) บนเว็บไซต์ coinbase เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับใช้เก็บบิทคอยน์แบบออฟไลน์หรือแบบที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต
2013
* ถอนเงินบิทคอยน์ผ่านตู้ ATM ได้เป็นครั้งแรก ที่เมืองซานดิเอโก
* เว็บไซต์ coinbase ได้รับการลงทุนโดน Fred Wilson ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนใน Union Square Ventures ถึง 5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
* รัฐนิวยอร์กประกาศ ให้บริษัทที่ทำธุระกิจเกี่ยวกับ บิทคอยน์ ให้มาลงทะเบียนขอ BitLicense ให้ถูกต้องและมีทั้งหมด 22 บริษัทได้มาลงทะเบียน
* ราคาบิทคอยน์พุ่งทะยานขึ้นแตะ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรก
2014
* Mt.Gox โดนแฮกอีกครั้ง ระบุว่าเกิดจากปัญหา “transaction malleability” โดยแฮกเกอร์เปลี่ยนข้อความส่วน TXID (transaction ID) ในเอกสารผู้รับโอน ทำให้บริษัทรับแลกเงินเข้าใจผิดคิดว่ารายการโอนเงินที่โอนออกไปนั้นไม่สำเร็จและพยายามโอนซ้ำอีกครั้ง แต่เงินที่แท้จริงนั้นถูกโอนออกไปแล้ว
* Mark Karpeles ผู้บริหาร Mt.Gox ยื่นเอกสารต่อศาลในโตเกียวประเทศญี่ปุ่นเพื่อขอล้มละลายและพิทักษ์ทรัพย์
* Paypal (ธนาคารออนไลน์) ประกาศรับชำระเงินผ่านโดยใช้เหรียญ BTC (บิทคอยน์)ได้
2015
* บิทคอยน์ใช้ชำระสินค้าได้อย่างกว้างขวาง คาดว่ามีร้านค้ามากกว่า 160,000 ร้าน ยอมรับการชำระสินค้าผ่านบิทคอยน์
2016
* คณะรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่นยอมรับ บิทคอยน์ ว่าสามารถใช้ชำระสินค้าได้เหมือนกันกับการใช้เงินจริง
* เว็บไซต์ Bitfinex ถูกแฮก ซึ่งเป็นเว็บแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ รายใหญ่สูญเสียเหรียญไปจำนวนกว่า 110,000 BTC
2017
* เหตุการณ์มัลแวร์เรียกค่าไถ่ ที่ชื่อว่า WannaCry ระบาดหนักส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์ บนระบบ Windows ทั่วโลก โดยแฮกเกอร์ได้ยื่นเงื่อนไขให้จ่ายเงินมูลค่า $300 (ประมาณ 1 หมื่นบาท) ในสกุล บิทคอยน์ ไปยังเลขบัญชีที่ระบุ เพื่อแลกกับโปรแกรมถอดรหัส
* เกิดเหรียญสกุลใหม่ที่ Block 478558 ภายใต้ชื่อ Bitcoin Cash (BCH) โดยอ้างว่า Bitcoin Cash จะมาเป็นเงินสกุลหลักแทนบิทคอยน์
2018
* รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ ประกาศให้คนที่ซื้อขายบิทคอยน์บน Exchange จะต้องเปิดเผยข้อมูลหรือ ยืนยันตัวตน(KYC) ก่อน
* ประเทศไทย ประกาศเก็บภาษีเงินดิจิตอล คริปโต โทเคน 15% ของกำไร
2019
* ราคา Bitcoin เริ่มฟื้นตัว โดยสิ้นปี 2019 ปิดที่ประมาณ 7,250 ดอลลาร์สหรัฐ
2020
* Bitcoin ถูกยอมรับในระดับสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร ผู้บริหารทางการเงิน บริษัทประกันภัยและบริษัทต่างๆ ทำให้สกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว
2021
* อิลอน มัสก์ CEO บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ประกาศซื้อบิตคอยน์ กว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท) และเตรียมรับชำระเงินผ่านบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิตอลในการซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทอีกด้วย
* Bitcoin มูลค่าทะลุ 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐ เป็นครั้งแรก ซึ่งได้ไต่ระดับราคาจาก 40,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ไปได้ไม่นานและภายในเดือนเดียวกัน(กุมภาพันธ์)เท่านั้น คาดว่าเกิดจากกระแสอิลอน มัสก์ที่เข้าซื้อบิตคอยน์
ในปีที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ คอนเซ็ปต์บิทคอยน์ จึงเริ่มต้นขึ้น ในแนวคิดที่ว่าจะออกจากระบบการเงินเดิมๆที่ไม่มีรัฐบาลและธนาคารเป็นผู้ควบคุม โดยพูดคุยกันในกลุ่ม Cypherpunk ซึ่งกลุ่มนี้จะพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องคณิตศาสตร์และศาสตร์แห่งการเข้ารหัส เป็นหลัก และสนทนากันผ่านทางอีเมลเท่านั้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น